5_2.webp
10 สัญญาณเตือนอาการขาดวิตามินที่คุณไม่ควรมองข้าม อัปเดต 2025.
ร่างกายเตือนคุณอยู่หรือเปล่า? รู้จัก 10 อาการขาดวิตามินที่พบบ่อย แต่ใคร ๆ ก็มักจะมองข้ามไป เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาว อัปเดตล่าสุด 2025
Published

10 อาการขาดวิตามินที่ร่างกายกำลังส่งสัญญาณให้คุณรู้

เมื่อทุกอย่างต้องแข่งกับเวลา ทำให้พฤติกรรมการบริโภคอาหารของหลาย ๆ คนเน้นไปที่การทานอาหารที่ง่ายและสะดวกที่สุด อย่างอาหารฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารแช่แข็งในร้านสะดวกซื้อ เพื่อที่จะได้เอาเวลาที่เหลือไปใช้ทำอย่างอื่นต่อ โดยเฉพาะกับเหล่าพนักงานออฟฟิศที่โหมงานหนักทั้งวันทั้งคืน ถึงอาหารเหล่านี้จะมีรสชาติอร่อย มีผักและเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบ แต่คุณหรือไม่ว่ามันแทบไม่มีสารอาหารที่ดีต่อร่างกายหลงเหลืออยู่เลย ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน และมีอาการขาดวิตามินได้ อาทิ ร่างกายอ่อนเพลีย, รู้สึกเหนื่อยผิดปกติ, นอนหลับยาก, ปวดหัวเป็นประจำ, เป็นหวัดบ่อย ฯลฯ และเมื่อร่างกายขาดวิตามินไปนาน ๆ ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงและเรื้อรังอาจตามมาได้ N Health จึงอยากชวนคุณมาทำความรู้จักร่างกายของตัวเองให้มากขึ้น พร้อมกับเช็กว่าร่างกายขาดวิตามินอะไรในบทความนี้ ผ่านสัญญาณเตือนของอาการขาดวิตามินชนิดต่าง ๆ 

วิตามินคืออะไร สำคัญกับร่างกายอย่างไร

วิตามิน (Vitamins) คือสารอาหารจำเป็นที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อย แต่มีความสำคัญกับร่างกายมาก เพราะวิตามินทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ซึ่งวิตามินจะไม่ให้พลังงานโดยตรงเหมือนคาร์โบไฮเดรตหรือไขมัน แต่ก็เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเคมีสำคัญที่เกิดขึ้นในร่างกายตลอดเวลา ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย และช่วยในการดูดซึมสารอาหารอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ร่างกายของเราจึงขาดวิตามินไม่ได้ และเนื่องจากร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถสร้างวิตามินทุกชนิดได้เอง วิธีได้มาซึ่งวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ จึงมาจากการรับประทานอาหารในแต่ละวัน หรือการทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่นั่นเอง หากคุณทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่เป็นประจำ ร่างกายก็จะได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนและส่งผลให้คุณมีอาการขาดวิตามินได้

10 สัญญาณเตือนว่าร่างกายมีอาการขาดวิตามิน

เมื่อร่างกายขาดวิตามินและมีการทำงานที่ผิดปกติ ร่างกายของเราก็จะส่งสัญญาณเตือนออกมาให้เรารู้ โดยส่วนใหญ่อาการขาดวิตามินที่แสดงออกมาไม่รุนแรงนัก ทำให้หลาย ๆ คนมองข้ามไปและไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาหรือสัญญาณเตือนจากร่างกาย ลองมาทำความรู้จักสัญญาณเตือนเหล่านี้และนำไปสังเกตร่างกายของตัวเองกันดีกว่า เพื่อที่คุณจะได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ ๆ ตามมา

1. ริมฝีปากแตกลอก

ริมฝีปากที่แห้ง แตก หรือมีอาการลอกมักบ่งบอกว่าร่างกายขาดวิตามินบี กลุ่มต่าง ๆ โดยเฉพาะวิตามินบี2 วิตามินบี3 และวิตามินบี6 วิตามินเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการบำรุงเยื่อเมือกและผิวหนัง การขาดวิตามินดังกล่าวทำให้เกิดการฟื้นฟูเซลล์ที่ช้าลง ส่งผลให้ริมฝีปากแห้งแตกและฟื้นฟูตัวเองได้ยาก

2. กล้ามเนื้ออ่อนแรงและเป็นตะคริว

ถ้าคุณมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงแบบไม่มีสาเหตุหรือมักเป็นตะคริวบ่อย ๆ ในตอนกลางคืน นี่อาจเป็นสัญญาณว่าคุณขาดวิตามินดี แมกนีเซียม แคลเซียม หรือโพแทสเซียมได้ แร่ธาตุและวิตามินเหล่านี้ทำงานร่วมกันในการควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อ เมื่อขาดไปจึงทำให้กล้ามเนื้อทำงานไม่สมดุล เกิดอาการเกร็งหรือเป็นตะคริวได้ง่ายนั่นเอง

3. ภูมิแพ้กำเริบและติดเชื้อบ่อย

ภูมิแพ้ที่รุนแรงขึ้นหรืออาการเจ็บป่วยบ่อยมากกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าร่างกายกำลังขาดวิตามินซี วิตามินดี หรือสังกะสี ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย อย่างวิตามินซีเพิ่มการทำงานของเม็ดเลือดขาว วิตามินดีควบคุมการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน และสังกะสีช่วยสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันใหม่ การขาดสารอาหารเหล่านี้จึงทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ไม่ดีเท่าที่ควร

4. รอยแดงที่มุมปาก

รอยแตกหรือแผลที่มุมปากที่ไม่หายสักที มักเรียกว่า "โรคปากนกกระจอก" เป็นสัญญาณชัดเจนว่าร่างกายอาจขาดวิตามินบี โดยเฉพาะไรโบฟลาวิน (วิตามินบี2) โฟเลต และวิตามินบี12 วิตามินกลุ่มนี้มีบทบาทในการสร้างเซลล์ใหม่และซ่อมแซมเนื้อเยื่อ นอกจากนี้การขาดธาตุเหล็กก็อาจส่งผลให้เกิดอาการนี้ได้เช่นกัน

5. สายตาแย่ลงในที่แสงน้อย

ปัญหาการมองเห็นในที่มืดหรือแสงน้อย (Night blindness) เป็นสัญญาณว่าร่างกายอาจขาดวิตามินเอ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรงควัตถุในจอประสาทตาที่ช่วยในการมองเห็น ในกรณีที่ขาดวิตามินเออย่างรุนแรง อาจทำให้เกิดโรค Xerophthalmia ที่ทำให้เกิดตาแห้ง กระจกตาอักเสบ และสูญเสียการมองเห็นได้

6. เส้นผมร่วงมากผิดปกติ

เส้นผมที่ร่วงมากกว่าวันละ 100 เส้น หรือร่วงเป็นกระจุกอาจเป็นสัญญาณของการขาดโปรตีน ธาตุเหล็ก สังกะสี วิตามินดี และไบโอติน เราต้องการสารอาหารเหล่านี้เพื่อสร้างโครงสร้างของเส้นผมและกระตุ้นการเจริญของรากผม นอกจากนี้ การขาดกรดไขมันโอเมก้า 3 ยังอาจทำให้หนังศีรษะแห้ง ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมด้วย

7. ผิวแห้งและความล่าช้าในการรักษาบาดแผล

ผิวที่แห้งผิดปกติหรือบาดแผลที่ใช้เวลานานในการหาย เป็นสัญญาณของการขาดวิตามินซี วิตามินอี หรือสังกะสี ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจนและการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ วิตามินเหล่านี้ยังช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ การขาดวิตามินเหล่านี้จึงทำให้ผิวดูแห้ง ไร้ชีวิตชีวา และมีความยืดหยุ่นลดลง

8. อาการหงุดหงิดและซึมเศร้า

ความผันผวนทางอารมณ์ ภาวะซึมเศร้า หรือหงุดหงิดง่าย อาจเกี่ยวข้องกับการขาดวิตามินดี วิตามินบี12 หรือโฟเลต ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับของสารสื่อประสาทในสมอง โดยเฉพาะซีโรโทนินและโดพามีน การได้รับวิตามินเหล่านี้อย่างเพียงพอจึงช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรักษาสมดุลทางอารมณ์ได้เป็นอย่างดี

9. เล็บเปราะบางและมีร่องตามยาว

เล็บที่แตกง่าย เปราะบาง หรือมีร่องลึกตามแนวยาว เป็นสัญญาณบอกว่าร่างกายกำลังขาดธาตุเหล็ก สังกะสี ไบโอติน หรือวิตามินบี12 เนื่องจากแร่ธาตุและวิตามินเหล่านี้มีความสำคัญต่อการสร้างโปรตีนเคราตินที่เป็นส่วนประกอบหลักของเล็บ การได้รับสารอาหารเหล่านี้ไม่เพียงพอจึงส่งผลให้เล็บไม่แข็งแรงและมีลักษณะผิดปกติ

10. อ่อนเพลียเรื้อรังและนอนไม่หลับ

ร่างกายอ่อนเพลีย ขาดวิตามินอะไร? ความอ่อนเพลียและความเหนื่อยล้าที่ไม่หมดไปสักที แม้จะนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม มักมีสาเหตุมาจากการขาดวิตามินดี วิตามินบีรวม แมกนีเซียม หรือธาตุเหล็ก สารอาหารเหล่านี้มีบทบาทในการผลิตพลังงานระดับเซลล์และการทำงานของระบบประสาท การขาดวิตามินบี12 หรือธาตุเหล็กยังอาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง ซึ่งส่งผลให้ออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อไม่เพียงพอ ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าตลอดเวลา

สาเหตุที่ทำให้ร่างกายขาดวิตามิน

  • กินแต่อาหารประเภทเดิมซ้ำ ๆ โดยเฉพาะฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารแปรรูป

  • กินอาหารที่ผ่านการทอดหรือต้มซ้ำ ๆ เนื่องจากวิตามินต่าง ๆ มักจะถูกความร้อนทำลาย

  • คนที่ระบบย่อยอาหารมีปัญหา อย่างเป็นโรคกระเพาะหรือลำไส้อักเสบ เพราะร่างกายจะดูดซึมวิตามินได้ไม่ดี

  • ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เพราะมันจะเข้าไปทำลายตัวและกระตุ้นการขับวิตามินบีออกทางปัสสาวะ

  • ดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลมมากเกินไป เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีสารที่ไปขัดขวางการดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุ

  • ช่วงพิเศษที่ต้องการวิตามินมากกว่าปกติ อย่างการตั้งครรภ์ ให้นมบุตร เพิ่งหายป่วย หรือเพิ่งเล่นกีฬามา

  • การกินยาบางตัวเป็นประจำ เช่น ยาลดกรด ยาคุม ยาปฏิชีวนะ ฯลฯ เพราะไปรบกวนการดูดซึมวิตามินในร่างกาย

วิธีเช็กว่าร่างกายขาดวิตามินอะไร

การตรวจสอบว่าร่างกายขาดวิตามินอะไรสามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่สังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เช่น ผิวแห้ง ปากแตก อ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย ฯลฯ ตามที่เราได้บอกไปในก่อนหน้านี้ แต่วิธีที่แม่นยำที่สุดคือการตรวจสุขภาพ (ตรวจเลือดหรือตรวจปัสสาวะ) เพื่อค้นหาว่าร่างกายขาดวิตามินอะไร และเพียงพอกับที่ร่างกายต้องการได้อย่างตรงจุด กับสถาบันทางการแพทย์ที่น่าเชื่อถือ หากคุณไม่รู้ว่าจะไปตรวจวัดระดับวิตามินและแร่ธาตุในร่างกายที่ไหนดี ขอแนะนำแพ็กเกจตรวจสุขภาพจาก N Health (ผู้นําด้านบริการตรวจสุขภาพและการวิเคราะห์ทางการแพทย์ โดยนักเทคนิคการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจวิเคราะห์ มาพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยตามมาตรฐานสากล) ดังนี้

แพ็กเกจตรวจระดับวิตามินและแร่ธาตุ

image.webp

แพ็กเกจตรวจระดับวิตามินและแร่ธาตุ ครอบคลุมการตรวจวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญถึง 19 รายการ ทั้งวิตามินเอ อี ซี บี12 และดี รวมถึงแร่ธาตุสำคัญอย่างเหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี และซิลีเนียม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการรับประทานวิตามินเฉพาะบุคคล คนที่รับประทานวิตามินเป็นประจำและต้องการตรวจสอบระดับที่เหมาะสม หรือผู้ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้ตรงกับความต้องการของร่างกาย

แพ็กเกจตรวจสารต้านอนุมูลอิสระ 

image.webp

แพ็กเกจตรวจสารต้านอนุมูลอิสระ ครอบคลุมการตรวจสารต้านอนุมูลอิสระ 10 ชนิด ทั้งวิตามินที่ละลายในไขมันและวิตามินที่ละลายในน้ำ เน้นตรวจวิตามินที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์โดยเฉพาะ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจเรื่องการชะลอวัย ผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษสูง หรือผู้ที่ต้องการรู้ว่าวิตามินเสริมที่รับประทานอยู่ให้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับสุขภาพร่างกายหรือไม่

บทสรุป

วิตามินและแร่ธาตุเป็นสารอาหารที่จำเป็น ถึงแม้ว่าร่างกายจะต้องการในปริมาณเพียงเล็กน้อยก็ตาม อาการขาดวิตามินมักแสดงออกผ่านสัญญาณเตือนต่าง ๆ ที่เราอาจมองข้ามหรือเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงอาการเหนื่อยธรรมดา ๆ การรู้ทันสัญญาณเตือนเหล่านี้ จะช่วยให้คุณสามารถป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้ หากคุณอยากเช็กว่าร่างกายขาดวิตามินอะไรอยู่ การตรวจวิเคราะห์ระดับวิตามินและแร่ธาตุคือคำตอบ N Health (เอ็น เฮลท์) พร้อมให้บริการตรวจสุขภาพ มากกว่า 31 สาขาทั่วประเทศ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE @nhealth หรือโทรศัพท์ 02-762-4000 (ตลอด 24 ชั่วโมง)